Tags: เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ IT

NVMe vs SATA มีข้อแตกต่างอะไรบ้าง

Posted in เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ IT

kpcict-nvme-vs-sata-1
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีระดับสูงสำหรับสื่อบันทึกข้อมูล NVMe คือผู้นำตัวจริงอย่างปฏิเสธไม่ได้ ในเบื้องต้นข้อแตกต่างระหว่าง NVMe และ SATA ในด้านประสิทธิภาพถือว่าต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ไดร์เวอร์การสื่อสารและอินเทอร์เฟซระหว่าง NVMe และ SATA แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจาก SATA จะใช้ไดร์เวอร์ AHCI ที่ออกแบบมาสำหรับฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) ภายใต้เทคโนโลยีจานหมุน ในขณะที่ไดร์เวอร์ NVMe ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ SSD ที่ใช้เทคโนโลยีแฟลช นอกจากนี้ NVMe ยังสามารถใช้ประโยชน์จากซ็อคเก็ต PCIe สำหรับสื่อสารระหว่างอินเทอร์เฟซสื่อบันทึกข้อมูลและ CPU ของเครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า หากเทียบกับการแข่งขันกีฬา ก็เหมือนกับการเปรียบเทียบระหว่างการแข่งขัน F1 กับซุปเปอร์ทัวริ่งทั่ว ๆ ไป

แม้ว่าในเบื้องต้นไดร์ฟ Solid State ที่ใช้เทคโนโลยีทั้งสองแบบจะทำงานได้รวดเร็ว แต่ก็มีความแตกต่างอยู่ไม่น้อย ควรพิจารณาข้อแตกต่างต่อไปนี้ขณะประเมินความจำเป็น ความต้องการ และเงื่อนไขในการทำงานของคุณ

SATA SSD
kpcict-nvme-vs-sata-2
เทคโนโลยี Serial ATA (SATA) เริ่มเปิดตัวในปี 2000 เพื่อพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี Parallel ATA เดิมในเวลานั้นที่มีข้อจำกัดจากขนาดของสายเชื่อมต่อ ต้นทุน ประสิทธิภาพ และฟังก์ชั่นการทำงาน เทคโนโลยีทั้งสองมีประสิทธิภาพมากเพียงพอสำหรับฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) ซึ่งทำงานได้ช้ากว่าไดร์ฟ Solid State (SSD) ในปัจจุบันอย่างมาก การเปิดตัว SSD ที่ใช้เทคโนโลยี SATA ทำให้มีการใช้งานบัส ATA ได้อย่างเต็มขีดจำกัดในที่สุด ในขณะที่ HDD สามารถทำความเร็วในการเขียนข้อมูลได้เพียง 50-120 MB/s แต่ SSD สามารถใช้งานบัส SATA ได้อย่างเต็มที่ถึง 550 MB/s แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในส่วนของบัส แต่ก็ชัดเจนว่าประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวมของ SATA SSD นั้นเหนือกว่าเทคโนโลยี HDD แบบเก่าถึง 10-15 เท่า
SATA SSD ขนาด 2.5 นิ้วในโน้ตบุ๊ก

AHCI

Advanced Host Controller Interface (AHCI) เป็นระบบการสื่อสารที่ออกแบบขึ้นในช่วงประมาณปี 2004 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและการใช้งานของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เชื่อมต่อผ่าน SATA ซึ่งในเบื้องต้นออกแบบมาสำหรับ HDD โดยมีคิวในการส่งคำขอไปยังสื่อบันทึกข้อมูลเพียงคิวเดียวที่รองรับได้มากสูงสุด 32 คำสั่ง นั่นหมายความว่า HDD จะมี throughput และประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็ยังอาจเป็นปัญหาคอขวดในอนาคตสำหรับเทคโนโลยีชุดควบคุม SSD เช่น HDD อาจสามารถรองรับอินพุท/เอาท์พุทได้สูงสุด 200 คำสั่งต่อวินาที (IOPS) ในขณะที่ SATA SSD อาจทำได้มากถึง 100,000 IOPS ซึ่งบัส SATA ไม่สามารถรองรับได้

NVMe SSD
เทคโนโลยี Non-Volatile Memory Express (NVMe) เริ่มเปิดตัวในปี 2011 เพื่อแก้ไขปัญหาคอขวดของอินเทอร์เฟซ SATA และโปรโตคอลการสื่อสาร เทคโนโลยี NVMe จะใช้บัส PCIe แทน SATA เพื่อให้มีแบนด์วิธมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล PCIe 4.0 (เวอร์ชั่นปัจจุบัน) รองรับการสื่อสารถึง 32 ช่องทาง และในทางทฤษฎีแล้วจะโอนข้อมูลได้สูงสุดถึง 64,000 MB/s เมื่อเทียบกับ SATA III ที่มีขีดจำกัดอยู่ที่ 600 MB/s NVMe ยังรองรับคิวคำสั่งมากถึง 65535 คิวและคำสั่งมากถึง 65536 คำสั่งต่อหนึ่งคิว ถ้าจำได้คุณจะรู้ว่า SATA SSA จำกัดคิวไว้ที่เพียงคิวเดียวและหนึ่งคิวรองรับได้เพียง 32 คำสั่งต่อคิวเท่านั้น เทคโนโลยี NVMe จึงมีศักยภาพที่สูงมากสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลทั้งในด้านประสิทธิภาพ ขีดความสามารถและการทำงานร่วมกันกับระบบการทำงานต่าง ๆ โดยทั่วไปเชื่อกันว่าเทคโนโลยีนี้จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ทางอุตสาหกรรม
kpcict-nvme-vs-sata-3
Kingston NVMe SSD ที่ติดตั้งอยู่ใน PC

ฟอร์มแฟคเตอร์ SSD

แม้ว่า HDD มักมีความกว้างอยู่ที่ 2.5 หรือ 3.5 นิ้ว แต่ SATA SSD ส่วนใหญ่จะมีความกว้างที่ 2.5 นิ้ว หนา 7 มม. ไดร์ฟ NVMe จึงรองรับฟอร์มแฟคเตอร์ที่หลากหลายเพื่อให้สามารถติดตั้งในอุปกรณ์รูปแบบต่าง ๆ

  • M.2 - การลดขนาดทางกายภาพของไดร์ฟ เช่น สำหรับฟอร์มแฟคเตอร์ M.2 ช่วยให้มั่นใจได้ว่าไดร์ฟนี้จะยังมีอนาคตอยู่อีกยาวนาน ความกว้างเท่ากับ 22 ส่วนความยาวคือ 30/42/80/110 ในหน่วยมิลลิเมตร ปัจจุบัน M.2 2280 รองรับ SATA และถือเป็นฟอร์มแฟคเตอร์ NVMe SSD ที่พบได้บ่อยที่สุดในประเภท NVMe เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาและลดขนาดชิ้นส่วนลงเรื่อย ๆ ก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น
  • U.2 - นี่เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและความทนทานมากกว่า แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเช่นกัน ซึ่งมักพบในศูนย์ข้อมูล/ระบบจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กร
  • การ์ด PCIe แอดอิน - ใช้สำหรับ NVMe SSD ประสิทธิภาพสูงที่ต้องติดตั้งในเครื่องที่ไม่มีซ็อคเก็ตสำหรับฟอร์มแฟคเตอร์ M.2

เบื้องต้นเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงานของ SSD

NVMe คือโปรโตคอลจัดเก็บข้อมูลที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ SSD เป็นสำคัญ การยกเลิกเลเยอร์ SATA HBA ที่แทรกอยู่ระหว่างกลาง ทำให้ NVMe สามารถช่วยให้ SSD สื่อสารได้โดยตรงกับ CPU ผ่านบัส PCIe กลายเป็นช่องทางที่เปิดกว้างสำหรับพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานได้อีกอย่างมาก กล่าวโดยสรุปคือ ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพของ SATA III จะอยู่ที่ 6Gb/s ตัว SATA SSD จึงรองรับ throughput หลังหักลบโอเวอร์เฮดต่าง ๆ อยู่ที่ 550MB/s เลน PCIe 3.0 หนึ่งเลนรองรับ throughput ที่ 1Gb/s (สองทิศทาง) PCIe 3x4 SSD จึงรองรับ throughput มากสูงสุดถึง 4Gb/s ในการอ่าน/เขียนข้อมูล และมากถึง 8Gb/s (สองทิศทาง) สำหรับ PCIe Gen 4X4 SSD ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพจึงไม่ได้อยู่ที่โปรโตคอลการสื่อสารอีกต่อไป แต่กลายมาเป็น NAND ที่ต้องมีการพัฒนาขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ผลิตต้องบีบอัดชิ้นส่วนต่าง ๆ และคุณสมบัติในการทำงานให้อัดแน่นอยู่ในฟอร์มแฟคเตอร์ที่มีขนาดเล็ก

ค่าหน่วงเวลาของโปรโตคอลก็ลดลงอย่างมากเมื่อมี NVMe เนื่องจากเส้นทางข้อมูลที่สั้นลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ค่าหน่วงเวลาต่ำกว่า SATA/SAS การจัดการคิวของอุปกรณ์ NVMe ก็สามารถจัดการได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่าน CPU เนื่องจากความสามารถในการส่งสัญญาณเพื่อการประมวลผล I/O ที่ช่วยลดภาระในการทำงานเบื้องหลังส่วนอื่น ๆ ของ CPU ได้อย่างมาก นอกจากนี้ อุปกรณ์ NVMe ยังทำงานได้กับระบบปฏิบัติการส่วนใหญ่เนื่องจากความพยายามอย่างเต็มที่ระหว่างการพัฒนาระบบในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ขอบคุณบทความจาก Kingston

เปลี่ยนมาใช้ Wi-Fi AC กันเถอะ

Posted in เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ IT

ตอนนี้ เริ่มได้ยินหลายๆคนบอกว่า ถ้าจะเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ดี ควรจะใช้ Wi-Fi AC มันคืออะไร และเป็นเพราะอะไร มาติดตามกัน

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ตอนนี้คนนึงใช้มือถือ 2-3 เครื่อง ทั้งบ้านก็ร่วมๆ 8 - 10 เครื่อง ทำให้หลายๆคนมองหาเร้าเตอร์ ที่รองรับ Wi-Fi AC และมือถือรุ่นที่รองรับการบริหารจัดการเชื่อมต่อสัญญาณได้ดีกว่า เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ TP-LINK AC Series Routers กัน ยิ่งจำนวนคนใช้เน็ตเยอะขึ้น TP-LINK ผู้นำด้านอุปกรณ์เน็ตเวิร์ครายใหญ่ของโลก ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ TP-LINK AC Series มารองรับการใช้งานในปัจจุบัน

image034

ทำไมต้องเปลี่ยนมาใช้ Wi-Fi AC?

เพราะผู้ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์เยอะมากขึ้น ส่งผลให้มีความแออัดในการรับ – ส่ง ข้อมูล และประสิทธิภาพของสัญญาณ Wireless ค่อนข่างต่ำ, สัญญาณหลุดง่าย สารพัดปัญหา รู้ไหมว่า ที่คุณด่า เน็ต (บ้าน)​ กาก ทุกวันนี้ อาจเป็นเพราะอุปกรณ์คุณเยอะ เร้าเตอร์ก็มีส่วน เพราะอุปกรณ์มาก จ่ายสัญญาณไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะเสถียร 

ข้อดีของ Wi-Fi AC

- Wi-Fi ในรูปแบบ AC ให้การส่งผ่านข้อมูลเร็วกว่ารูปแบบเดิม (Wi-Fi N) ถึง 3 เท่า

- ทำให้การเข้าถึงข้อมูลง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

- ช่องทางการถ่ายโอนข้อมูลมากยิ่งขึ้น

- Wi-Fi AC ให้การเชื่อมต่อที่ย่าน 5GHz เปรียบเสมือนถนนที่โล่งกว้าง สัญญาณรบกวนน้อย

- มาพร้อมกับเทคโนโลยี Beamforming ทำให้อุปกรณ์โฟกัสไปที่อุปกรณ์ตัวรับสัญญาณ Wi-Fi ได้ดีกว่า

- ทุกวันนี้ในแต่ละบ้านมีอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่น้อยกว่า 5-10 อุปกรณ์ ทั้ง Smartphone, Laptop, Notebook , Smart TV , Tablet เป็นต้น

นอกจากเรื่องความเร็วของอุปกรณ์แล้ว เราเตอร์ TP-LINK ยังมีคุณสมบัติ ที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งานอีกเช่น

- พอร์ต USB ที่หลังอุปกรณ์ สามารถใช้เป็น Storage Sharing, FTP Server, Media Server, Printer Sharing

- Parental Control ควบคุมการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เวลา, Website เป็นต้น

- Guest Network ให้การเชื่อมต่อสำหรับแขกผู้มาเยี่ยมบ้านในระยะเวลาสั้น

image035

แนะนำ TP-LINK Wireless Router รุ่นยอดนิยม

AC1900 Wireless Dual Band Gigabit Router Archer C9 

Archer-C9

- รองรับการทำงาน Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac 

- ให้การเชื่อมต่อได้อย่างพร้อมกันสองย่านความถี่แบนด์วิดธ์รวมที่ 1.9Gbps โดย 600Mbps ย่าน 2.4GHz และ 1300MHz ย่าน 5GHz 

- สายอากาศย่านความถี่คู่แบบถอดได้ (3)

- เพิ่มประสิทธิภาพการส่งผ่านไร้สายด้วยเทคโนโลยี Beamforming

- ประมวลผลแบบ Dual core 1 GHz พร้อมรับการทำงานแบบหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการใช้งานผ่านสายหรือไร้สายในเวลาเดียวกัน

- พอร์ต USB2.0 และ USB 3.0

- รองรับการจัดการอุปกรณ์ผ่านแอพลิเคชั่น Tether

AC1750 Wireless Dual Band Gigabit Router Archer C7

Archer-C7

- รองรับมาตรฐาน 802.11ac

- เชื่อมต่อที่ย่าน 2.4GHz 450Mbps และย่าน 5GHz 1300 Mbps พร้อมๆกัน โดยมีแบนด์วิดธ์ที่สามารถรองรับได้ถึง 1.75Gbps

- USB 2 พอร์ต

AC1200 Wireless Dual Band Gigabit Router Archer C5

Archer C5

- รองรับมาตรฐาน 802.11ac 

- ทำการเชื่อมต่อที่ย่าน 2.4GHz 300Mbps และย่าน 5GHz 867Mbps พร้อมๆกัน โดยมีแบนด์วิดธ์ที่สามารถรองรับได้ถึง 1.2Gbps 

- USB 2 พอร์ต 

- จัดการเครือข่ายได้อย่างได้ง่ายดายเพียงปลายนิ้วด้วย TP-LINK Tether

AC750 Wireless Dual Band Router Archer C20

Archer C20

- รองรับมาตรฐาน 802.11ac 

- เชื่อมต่อย่านควาามถี่ 2.4 GHz 300Mbps และ 5 GHz 433Mbps สำหรับแบนด์วิดธ์ที่รองรับที่ 733Mbps พร้อมๆกัน

- 2 เสาสัญญาณ

- 1 พอร์ต USB

นอกจากอุปกรณ์ที่ใช้ส่งสัญญาณมีความสำคัญแล้ว อุปกรณ์ที่ใช้ในการรับสัญญาณก็มีความสำคัญไม่ต่างกัน ถ้าคุณใช้คอมเล่นเน็ต แนะนำ ให้ใช้ USB Adapter AC

AC1200 Wireless Dual Band USB Adapter Archer T4U

Archer-T4U

- รองรับ Wireless ความเร็วรวมสูงถึง 1200 (867+300)Mbps บนมาตราฐาน 802.11ac 

- พอร์ต USB 3.0 ซึ่งเป็นพอร์ตความเร็วสูงกว่า USB 2.0 ถึง 10 เท่า 

- ง่ายต่อการใช้งานการเข้ารหัสความปลอดภัยสัญญาณไร้สายเพียงกดปุ่ม WPS เพียงครั้งเดียว 

- มีสายต่อพวงกับ USB เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

AC600 Wireless Dual Band USB Adapter Archer T2U

Screen Shot 2559-07-14 at 4.47.47 AM

- ความเร็วของสัญญาณ Wireless สูงถึง 600 (433+150)Mbps

- เป็นทางเลือกในการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ความเร็วสูงในมาตรฐานใหม่

- รองรับ Windows 8.1/8/7/XP/10/Mac/Linux

AC600 High Gain Wireless Dual Band USB Adapter Archer T2UH

Archer-T2UH

- Wireless มาตรฐาน 802.11ac ด้วยความเร็ว 600Mbps (433+150)

- เสาอากาศภายนอกกำลังส่งสูง ทำให้สัญญาณมีความเสถียร

- เข้ารหัสการใช้งานสัญญาณ Wireless ได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่ม WPS

- เป็นทางเลือกในการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ความเร็วสูงในมาตรฐานใหม่

- รองรับ Windows 8.1/8/7/XP/10/Mac/Linux

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tp-link.com

Echo English เรียนภาษาอังกฤษด้วยแอปพลิเคชั่นที่ดีที่สุด!

Posted in เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ IT

echo-eng

Echo English : แอพพลิเคชั่นเพื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของคนไทยทุกคน

          พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการยกระดับภาษาอังกฤษของประชาชน จึงเกิดความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและประชารัฐ ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นEcho English ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คนไทยทุกคนสามารถเรียนภาษาอังกฤษจากเจ้าของภาษาได้ฟรี ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านทางมือถือและแท็บเล็ต

          ผู้เรียน Echo English ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อน เพราะบทเรียนได้รับการออกแบบให้เป็นไปตามหลักการเรียนรู้ภาษาตามธรรมชาติ มีทั้งหมด 200 บทเรียน ให้คนไทยได้ฝึกฟัง พูด อ่าน เขียน โดยจำลองสถานการณ์ต่างๆ ที่คนไทยจำเป็นต้องใช้ในชีวิตจริง อาทิ บทสนทนาทั่วไป ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจการค้าและการบริการ ภาษาอังกฤษสำหรับวิชาชีพต่างๆ เป็นต้น

          Echo English จะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2559 สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถทดลองดาวน์โหลดในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ได้แล้ววันนี้

          หัวใจสำคัญของการประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษ ประกอบไปด้วย 3 ปัจจัย คือ 1) เรียนรู้ จากต้นแบบภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง 2) มีระบบ Feedback ที่ช่วยแก้ไขให้ถูกต้องในทันที ซึ่งทั้งสองปัจจัย รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมให้กับประชาชนเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงประการสุดท้ายคือ 3) หมั่นฝึกฝน ขวนขวายเรียนรู้สม่ำเสมอ อันเป็นหน้าที่สำคัญของประชาชนทุกคนที่จะต้องช่วยกันพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จ

เรียนภาษาอังกฤษด้วยแอปพลิเคชั่นที่ดีที่สุด! 
          เชิญติดตั้งเพื่อเข้าถึงวิดีโอบทเรียนที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้พัฒนาการพูด การฟัง การออกเสียง คำศัพท์ภาษาอังกฤษ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น! 
          พบกับหัวข้อวิดีโอที่หลากหลาย: สำนวนภาษาอังกฤษพื้นฐาน, สถานการณ์ทั่วไป, การท่องเที่ยว, ธุรกิจ, วิชาชีพและอื่นๆ 
          วิดีโอบทเรียนของเราเน้นการพัฒนาทักษะเป็นหลัก: การออกเสียง, การสื่อสาร, ความเข้าใจทางวัฒนธรรม, พื้นฐานไวยากรณ์ และคำศัพท์
          วิดีโอได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ สำหรับผู้เรียนตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงระดับกลาง. 

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นฟรีและเพลิดเพลินไปกับคุณสมบัติเฉพาะดังต่อไปนี้: 
1. บทเรียน – วิดีโอบรรยายสอนเป็นภาษาไทย
2. ฟัง – สามารถฟังซ้ำเฉพาะบางประโยค หรือฟังซ้ำประโยคทั้งหมดได้เท่าที่ต้องการ 
3. พูด – ฟังเสียงเจ้าของภาษาแล้วฝึกพูดประโยคหลักของแต่ละบทเรียน EchoEnglish มีระบบวิเคราะห์เสียงพูด ที่สามารถแจ้งผลลัพท์การพูดเพื่อให้ผู้เรียนสามารถแก้ไขให้ถูกต้องได้* 
4. เขียน    – ช่วยให้ทบทวนความหมาย, การสะกดคำ, การใช้คำภาษาอังกฤษ, วลีและประโยคที่เรียนรู้จากวิดีโอบทเรียน 
5. แบบทดสอบ – แต่ละบทเรียนจะมีข้อสอบแบบปรนัยเพื่อวัดความเข้าใจ
* เฉพาะระบบ Android เท่านั้น ไม่รองรับระบบ iOS

รายละเอียดการสมัคร: 
ฟรีสำหรับคนไทย

echo english

 


คลิกดาวน์โหลด Echo English ได้ที่นี่

 

 

 

echo

echoeng

380981

 

ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
งานศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ

แนะนำเว็บไซต์สแกนไวรัสออนไลน์ โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม

Posted in เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ IT

online virus scanเนื่องจากปัจจุบันได้มีไวรัสและมัลแวร์ระบาดผ่านเว็บไซต์ โดยช่องทางหลักจะผ่านโซเชียลมีเดียยอดนิยม คือ Facebook จึงทำให้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของสมาชิกผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตของวิทยาลัยฯ ทำงานช้า ใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้บ้าง และเข้าใช้งาน Browser ต่างๆ ไม่ได้ งานศูนย์ข้อมูลฯ จึงได้รวบรวมเว็บไซต์ที่ใช้สแกนไวรัสออนไลน์ ที่สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ หรือสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่งานศูนย์ข้อมูลฯ ให้ดำเนินการแก้ไขให้ได้เช่นกัน

ยืนยัน Windows 10 แจ้งเกิด 29 ก.ค.นี้

Posted in เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ IT

558000006431402

ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เวอร์ชันใหม่ “Windows 10” จะลุยเปิดให้ผู้ใช้ Windows 7 และ Windows 8.1 ดาวน์โหลดฟรีในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ พร้อมกับที่คอมพิวเตอร์พีซี และแท็บเล็ต Windows 10 บางรุ่นจะเริ่มวางตลาดอย่างจริงจัง
       
       ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เจ้าพ่อบริษัทซอฟต์แวร์อเมริกันประกาศยืนยันกำหนดวันเปิดตลาด Windows 10 อย่างเป็นทางการไว้ที่ 29 กรกฎาคม 2015 จุดนี้ข้อมูลระบุว่า ผู้ใช้สินค้าระบบปฏิบัติการเวอร์ชันปัจจุบันอย่าง Windows 7 และ Windows 8.1 จะสามารถลงทะเบียนจองการอัปเกรดเป็น Windows 10 ได้ผ่านการแจ้งเตือนที่จะแสดงไว้ที่แถบทาสก์บาร์ของเครื่องพีซี โดยการคลิกที่ “Reserve your free upgrade” สามารถทำได้แล้วตั้งแต่วันนี้
       
       ผู้ลงทะเบียนจองการอัปเกรดด้วยการคลิกที่ปุ่ม Reserve your free upgrade จะต้องกรอกอีเมลเพื่อเป็นช่องทางยืนยันการจอง โดยหากการกรอกข้อมูลเป็นไปตามขั้นตอน การอัปเกรดจะใช้พื้นที่เก็บข้อมูลในระบบมากกว่า 3GB
       
       นอกจากคอมพิวเตอร์พีซี รายงานระบุว่า สินค้าประเภทสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 10 จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 29 กรกฎาคมเพียงบางรุ่นเท่านั้น ขณะที่สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 หลากแบรนด์หลายค่ายจะสามารถอัปเกรดเป็น Windows 10 ได้ถ้วนหน้า

การประกาศวันพร้อมให้บริการนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องจากการเปิดตัว Windows 10 ครั้งแรกในเดือนกันยายนปีที่แล้ว แทนที่จะเป็น Windows 9 ไมโครซอฟท์กลับเลือกตั้งชื่อก้าวกระโดดจาก 8.1 เป็น 10 เพื่อตอกย้ำคุณสมบัติใหม่ที่ข้ามขั้นชัดเจน โดยจุดเด่นของ Windows 10 ที่ไมโครซอฟท์ภูมิใจนำเสนอคือ บริการสำหรับผู้บริโภคอย่าง Cortana สำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ รวมถึงโปรแกรมเบราว์เซอร์ใหม่ Microsoft Edge

เทอร์รี่ เมอร์สัน (Terry Myerson) รองประธานฝ่ายธุรกิจระบบปฏิบัติการให้ความเห็นว่า วิสัยทัศน์ที่ไมโครซอฟท์วางไว้สำหรับ Windows 10 คือ การเน้นความสามารถด้านงานประมวลผลที่มีความเป็นส่วนบุคคลมากขึ้น ทำให้ Windows 10 ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลายรูปแบบที่สุดเท่าที่วินโดวส์เคยรองรับ โดย Windows 10 สามารถทำงานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์พีซี, แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน, สินค้ากลุ่ม Internet of Things, หน้าจอไฮเทค Surface Hub, เครื่องเกม Xbox One รวมถึงระบบ HoloLens
       
       นอกจากนี้ Windows 10 ยังเด่นเรื่องการกลับมาของปุ่ม Start และการการันตีว่า Windows 10 จะสามารถทำงานได้รวดเร็วทั้งการเปิดเครื่อง และการเข้าสู่สถานะพร้อมใช้งาน ที่สำคัญ Windows 10 ยังถูกโฆษณาว่าเป็นวินโดวส์ที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดด้วย 

ขอบคุณข่าวจากผู้จัดการ

เส้นทางมาวิทยาลัย (Google Map)
googlemap
- เข้า-ออก จากระบบเครือข่าย
- สถานะเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
- ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต
เปลี่ยนรหัสผ่านผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต
- ลงทะเบียน Mac Address
- ติดต่อทีมงาน ICT (แจ้งซ่อมแซม)
- สมัครสมาชิกชมรมศิษย์เก่าฯ hot-kapook2

 เกี่ยวกับวิทยาลัย
- ประวัติความเป็นมา
- ทำเนียบผู้บริหาร
- ข้อมูลบุคลากร
- ข้อมูลนักเรียน
- ข้อมูลหลักสูตร
- ข้อมูลอาคารสถานที่
- ข้อมูลงบประมาณ
- ข้อมูลตลาดแรงงาน
- ข้อมูลเศรษฐกิจและสังคม
 หน่วยงานภายใน
- ฝ่ายวิชาการ
- ฝ่ายแผนงานและความร่วมมือ
- ฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียน นักศึกษา
- ฝ่ายบริหารทรัพยากร
flowers

 หน่วยงานต้นสังกัด
- รัฐบาลไทย
- กระทรวงศึกษาธิการ
- สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
- สำนักอำนวยการ
- สำนักพัฒนาสมรรถนะฯ
- สำนักนโยบายและแผนฯ
- ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและกำลังคนฯ
- สถาบันการอาชีวศึกษา

สถานศึกษาใน อศจ.กาฬสินธุ์
- วิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์
- วิทยาลัยเทคนิคเขาวง
- วิทยาลัยสารพัดช่างกาฬสินธุ์
- วิทยาลัยการอาชีพคำม่วง
- วิทยาลัยการอาชีพห้วยผึ้ง
- วิทยาลัยการอาชีพหนองกุงศรี